วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

iPhone 5S จัดเต็มด้านฮาร์ดแวร์


กระแสข่าวเกี่ยวกับ iPhone รุ่นใหม่ ทั้ง iPhone 5S เริ่มร้อนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างข่าวล่าสุดที่เพิ่งเสนอไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ กับภาพหลุดชิ้นส่วนหน้าจอ iPhone 5S ที่ไม่แตกต่างจาก iPhone 5 มากนัก และ iPhone 5S จะเพิ่มเทคโนโลยี LTE-A หรือ LTE-Advanced รองรับความเร็วสูงสุดที่ 150Mbps (ทางทฤษฎี) เร็วกว่า LTE ในปัจจุบันถึงสองเท่า ล่าสุด มีการเปิดเผยสเปคของ iPhone 5S ที่หลุดมาจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนในจีนออกมาแล้ว

ข้อมูลสเปคถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ ExtremeTech ที่อ้างว่าได้รับข้อมูลมาจากแหล่งข่าวโรงงานผลิตชิ้นส่วนในประเทศจีน โดยบอกว่าหน้าตาของ iPhone 5S ยังคงมีดีไซน์เหมือนกับ iPhone 5 แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปมากคือฮาร์ดแวร์ สำหรับสเปคของ iPhone 5S มาพร้อมหน้าจอขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 1136×640 พิกเซล ใช้เทคโนโลยี IGZO ของ Sharp ช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงานมากขึ้นและสีสันต่าง ๆ สวยสมจริง, ส่วนซีพียูใช้ตัวเดียวกับ iPhone 5 (Apple A6) แต่ทางแอปเปิลจะเพิ่มความเร็วในการประมวลให้มากขึ้นมากกว่า

ด้านกราฟิกใช้ชิปประมวลผล (GPU) แบบ Quad-Core PowerVR SGX544MP4, แรม 2GB, มีกล้องถ่ายภาพความละเอียด 12 ล้านพิกเซลและถ่ายวิดีโอแบบ slow motion ได้ ส่วนด้านการเชื่อมต่อมีเทคโนโลยี NFC และ Fingerprint ระบบสแกนลายนิ้วมือตามข่าวลือหลาย ๆ ข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะมีระบบเหล่านี้เพิ่มเข้ามาด้วย

อย่างไรก็ดี อย่าลืมข้อมูลทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ส่วนจะจริงแค่ไหน ต้องจับตาอยู่ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมปีนี้ ซึ่งอยู่ในช่วงการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ของแอปเปิล มารอลุ้นกันว่า สเปค iPhone 5S จะเป็นจริงตามข่าวลือนี่หรือไม่


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ExtremeTech


ที่มา khaosod

เพราะิอะไร!! Nokia ไม่ขอมี Android ???

“เหตุผลดีๆ ที่ Nokia ไม่ทำแอนดรอยด์!!” 

Stephen-Elop-007

ปีสองปีที่ผ่านมาแฟนบอยโนเกียลุ้นใจหายใจคว่ำทีเดียว หลังบริษัทแทบจะไปไม่รอดทั้งๆ ที่ขายมือถือเป็นอาชีพขนาดนี้ เพราะทั้ง iOS และ Andriod บุกตลาด แน่นอนโนเกียเองก็มี Symbian และ Meego ในขณะนั้น
แต่มันไม่รุ่งด้วยหลากหลายเหตุผล ก่อนจะมาจบกับ Widows Phone แฟนบอยหลายท่านถึงกับงง ที่ทำไมโนเกีย ไม่เลือกใช้บริการแอนดรอยด์ เหมือนหลายค่ายเอาไปหากินจนลืมตาอ้าปากในวงการได้ โดยเฉพาะซัมซุง ล่าสุดซีอีโอ Stephen Elop ได้ออกมาเฉลยเหตุผลผ่านบทสัมภาษณ์ของ The Guardian
mnb-Nokia-Lumia-1020-11
” เราตัดสินใจกันอย่างยาวนานและลำบาก แต่บริษัททราบอยู่แล้วว่า ในตลาดแอนดรอยด์ต้องมีผู้ผลิตรายหนึ่ง สามารถทำตลาดนี้ได้เป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งเรายอมรับในการตัดสินใจที่เชื่องช้าสำหรับการเลือกโอเอสหลักระหว่าง Android กับ Windows Phone และผู้ผลิตรายอื่นก็เติมช่องว่างของแอนดรอยด์จนเต็มไปหมด “  Elop เล่า
ซึ่งหลังจากผ่านวิกฤตโอเอสมา โนเกียก็ได้พิสูจน์ทั้งเรื่องผู้ผลิตอันดับหนึ่งที่ว่า ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นซัมซุงที่ครองตลาดแอนดรอยด์ ส่วนโนเกียกับ Windows Phone นั้นก็ค่อยๆ เขยิบเข้ามาคานอำนาจทั้ง iOS และAndriod ด้วยการผลักดันอย่างเอื้องเชื่องจากไมโครซอฟท์นั่นเอง!!
Nokia-Denies-Android-Phone-Rumors
ที่มา mthai

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

แนะนำ Samsung Galaxy Core ด้วยราคายั่วใจเพียง 7,900 บาท

สมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่าหมื่น รุ่นแนะนำ กับ Samsung Galaxy Core ด้วยราคายั่วใจเพียง 7,900 บาท แต่เร็วแรงระดับ Dual Core พร้อมรองรับ Dual SIM

มีงบประมาณไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท ควรจะซื้อ สมาร์ทโฟน รุ่นใดดี? เชื่อได้เลยครับว่า คงมีหลายๆ ท่านที่ตั้งคำถามในลักษณะนี้ก่อนที่จะเลือกซื้อ สมาร์ทโฟน สักรุ่นกันอย่างแน่นอน เนื่องจากตลาดสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน มีหลากหลายรุ่นให้เลือก ในระดับราคาที่ต่างกันไปตามคุณสมบัติของแต่ละรุ่น แต่สมาร์ทโฟนรุ่นใด จะตอบโจทย์กับผู้ใช้งานมากที่สุด คงขึ้นอยู่ที่ผู้ใช้งานแต่ละท่าน ต้องการสมาร์ทโฟน ที่ตอบสนองต่อการใช้งานในด้านใด
สำหรับสมาร์ทโฟนที่จะมาแนะนำในวันนี้ ก็คือ Samsung Galaxy Core ซึ่งเปิดตัวในไทยไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยจุดเด่นของ Samsung Galaxy Core นั้น นอกจากจะมาพร้อมกับจอแสดงผลขนาด 4.3 นิ้วแล้ว ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียวอีกด้วย
มาดูคุณสมบัติเด่นๆ ของ Samsung Galaxy Core กันครับ
ประมวลผลการทำงาน ด้วยซีพียูแบบ Dual-Core Processor
จริงอยู่ที่ หน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Processor อาจจะไม่แรง เร็วทันใจ เท่าหน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor แต่ก็มีหลายท่านที่ซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงมา แต่ใช้งานได้ไม่เท่ากับคุณสมบัติที่ตัวเครื่องนั้นๆ มี เพราะส่วนใหญ่ มักจะใช้งานแค่ รับสาย โทรออก เล่น Facebook หรือใช้งานแชทผ่านโปรแกรมLINE เท่านั้น
โดย Samsung Galaxy Core นั้น มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.2 GHz ที่ถือว่า เป็นหน่วยประมวลผลที่อยู่ในระดับปานกลาง แต่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานทุกรูปแบบได้ไม่แพ้กัน จะเปิดเว็บไซต์ เล่นเกม แชทกับเพื่อน หรือถ่ายรูป แค่ซีพียูแบบ Dual-Core Processor บน Samsung Galaxy Core ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ
รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียว
เรียกได้ว่า เป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นอีกข้อหนึ่งของ Samsung Galaxy Core นั่นก็คือ สามารถรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดได้ภายในเครื่องเดียวนั่นเอง ปกติแล้ว โทรศัพท์มือถือที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด จะเป็นแบบที่ต้องสลับซิมการ์ดเอง แต่ข้อดีของการใช้งาน 2 ซิมการ์ดบน Samsung Galaxy Core ก็คือ
- ถ้าหากใช้ SIM 1 ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้ SIM 2 รับสายได้ หรือ ถ้าหากใช้ SIM 2 ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้ SIM 1 รับสายได้เช่นกัน
- ถ้าหากสนทนาด้วย SIM 1 สามารถตั้งค่าให้รับสายจาก SIM 2 ได้ หรือ ถ้าหากสนทนาด้วย SIM 3 ก็สามารถตั้งค่าให้รับสายจาก SIM 1 ได้เช่นกัน
รองรับระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 Jelly Bean ตั้งแต่แกะกล่อง
ไม่ต้องรออัพเดทระบบปฏิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean อีกต่อไป เพราะ Samsung Galaxy Core รองรับระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 Jelly Bean ตั้งแต่แกะกล่องเลยทีเดียว ซึ่งจุดเด่นของระบบปฏิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean ก็คือ มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Project Butter มาช่วยทำให้การประมวลผลบนสมาร์ทโฟน เร็วขึ้นกว่าระบบปฏิบัติการเวอร์ชันก่อนหน้า ด้วยการขยายเฟรมเรต ที่จะช่วยทำให้การทำงานต่อเนื่องกันทั้งระบบนั่นเอง นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มฟีเจอร์การใช้งานที่น่าสนใจอีกมากมายเลยทีเดียว
จอแสดงผลขนาด 4.3 นิ้ว และหน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
galaxy-core-01
Samsung Galaxy Core มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 4.3 นิ้ว แบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล (217 ppi) ซึ่งถือว่า เป็นขนาดที่กำลังพอเหมาะต่อการใช้งาน นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB และหน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 8 GB พร้อมกับความสามารถในการเก็บข้อมูลได้ไม่จำกัด ด้วยหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD card สูงสุดถึง 64 GB ครับ
เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ง่าย รองรับทั้ง 3G และ Wi-Fi
Samsung Galaxy Core รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทั้ง เครือข่าย 3G โดยเป็นการแยกจำหน่ายโมเดล นั่นก็คือ 850/2100 MHz (สำหรับ Dtac, Truemove H) และ 900/2100 MHz (สำหรับ AIS) ต้องเลือกซื้อรุ่นใดรุ่นหนึ่ง ส่วน Wi-Fiเป็นแบบ Wi-Fi 802.11 b/g/n
ไปไหนไม่หลงทาง ด้วยระบบ GPS ในตัว
ขึ้นชื่อว่า เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นคุ้มค่า ฉะนั้น ฟังก์ชันพื้นฐานอย่างระบบนำทาง คงต้องมีอยู่ในตัวเครื่องอย่างแน่นอน โดย Samsung Galaxy Core ใช้ระบบนำทางผ่านแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า Google Maps ซึ่งรองรับทั้ง GPS และ A-GPS ในตัว อีกทั้งยังสามารถค้นหาเส้นทางได้อย่างแม่นยำ ไม่ต้องกลัวหลงทางอีกต่อไป
ถ่ายภาพได้คมชัด ด้วยกล้องความละเอียดระดับ 5 ล้านพิกเซล
ในด้านการถ่ายภาพ Samsung Galaxy Core มาพร้อมกับกล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกมากมาย ทั้งแบบชอทเดียว, ต่อเนื่อง, พาโนราม่า, แชร์ภาพ, แชร์ภาพกับคู่หู และ สไมล์ชอท โดยความละเอียดสูงสุดของภาพถ่ายอยู่ที่ 2592 x 1944 พิกเซล
สำหรับโหมดการถ่ายภาพวิดีโอ รองรับสูงสุดที่ขนาด 640 x 480 พิกเซล พร้อมฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ เช่น การตั้งเวลาถ่าย, ค่าชดเชยแสง หรือสมดุลสีขาว เป็นต้น
ความบันเทิงรอบตัว ทั้งการดูหนัง และฟังเพลง
Samsung Galaxy Core รองรับการใช้งานด้านความบันเทิง ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง โดยมีแอพพลิเคชั่นเครื่องเล่นเพลง และเครื่องเล่นวิดีโอในตัว หรือแม้แต่การเล่นเกม ก็รองรับการใช้งานอย่างครบถ้วน และสมบูรณ์ ไม่เพียงเท่านั้น ยังรองรับวิทยุการฟัง FM อีกด้วย
กำหนดการวางจำหน่าย พร้อมสีสันที่เลือกได้ 2 สีสัน
ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันของ Samsung Galaxy Core ในข้างต้น แต่สามารถเป็นเจ้าของกันได้ ในราคาเพียง 7,900 บาท โดยจะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฏาคม ที่ผ่านมา มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก ได้แก่ สีขาว และสีน้ำเงิน ท่านที่กำลังมองหา สมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้ทุกด้าน และราคาที่ไม่แพงจนเกินไป Samsung Galaxy Core ถือว่า เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการตัดสินใจ หรือจะเป็นอีก 2 รุ่นให้เลือก ในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน นั่นก็คือ Samsung Galaxy S Duos กับ Samsung Galaxy Ace 2 ชื่นชอบรุ่นนี้ สามารถทดลองใช้งานกันได้ ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก: techmoblog
ที่มา mthai

Apple ส่อแวว เลื่อนเปิดตัว iPad mini 2 ไปปีหน้า!?

ตอนนี้เชื่อว่านอกจากสาวก Apple กำลังตั้งตารอคอย iPhone 5S ที่จะเปิดตัวอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ สำหรับแท็บเล็ตของ Apple อย่าง iPad mini 2 ที่มีข่าวว่าจะมาพร้อมกับหน้าจอแบบ Retina Display ก็มีคนกำลังรออยู่เยอะเช่นกัน จากข่าวก่อนหน้านี้ที่บอกว่า Apple จะเปิดตัว iDevices สองอย่างนี้พร้อมกันประมาณเดือนกันยายนนี้
ipad-mini-retina-iphone-5s-2
แต่ล่าสุดมีรายงานจาก Econimic Daily News จากประเทศไต้หวันรายงานว่า เพราะว่าไอหน้าจอ Retina Display นี่แหละที่ทำให้เราอาจไม่ได้เห็น New iPad mini 2 กันในปีนี้ เพราะมีข่าวว่าตอนนี้ทางบริษัทที่ผลิตหน้าจอ Retina นี้ ผลิตให้ Apple ได้ไม่ทัน ทำให้ Apple อาจต้องเลื่อนวันเปิดตัว iPad mini 2 ไปเป็นในปีหน้าแทน
เท่านั้นยังไม่พอครับ เนื่องจากทาง Apple ต้องการวางขาย New iPad mini ในช่วงปลายปี เนื่องจากเป็นช่วงจับจ่ายใช้สอยเงิน และเป็นช่วงพักผ่อนของคนทางฝั่งตะวันตก ทำให้แท็บเล็ต iOS7 ตัวนี้อาจจะถูกเลื่อนไปเปิดตัวปลายๆ ปีโน่นเลยครับ
เชื่อว่าข่าวนี้จะมีทั้งคนดีใจและเสียใจนะครับ คนที่เสียใจก็คือคนที่กำตัง รอสอยแท็บเล็ตเครื่องนี้ ส่วนคนที่ดีใจก็จะเป็นคนที่เพิ่งจะซื้อ iPad mini ไป อย่างน้อยก็ไม่ต้องเซ็งเหมือนตอนที่ Apple เปิดตัว iPad 4 หลังจากที่เปิดตัว iPad 3 ไปไม่ถึงปี ^^
source: macrumors
ที่มา mthai

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Nokia เปิดตัว Lumia 1020 สมาร์ทโฟนพร้อมกล้อง 41 ล้านพิกเซล

สตีเฟน อิล็อป (Stephen Elop) ซีอีโอโนเกียขึ้นเวทีเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ Lumia 1020 ที่นิวยอร์กซิตี้
หลังจากคลอด Nokia 808 PureView ในฐานะโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกที่ใช้กล้องดิจิตอลความละเอียด 41 ล้านพิกเซลบนระบบปฏิบัติการซิมเบียน (Symbian OS) จนประสบความสำเร็จ วันนี้โนเกียแจ้งเกิด Lumia 1020 สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน (Windows Phone) ที่มาพร้อมกล้องดิจิตอลความละเอียด 41 ล้านพิกเซลอย่างเป็นทางการ โดยจะเปิดให้เริ่มสั่งจองวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ในบางประเทศ สำหรับสหรัฐฯ โนเกียจะวางจำหน่ายผ่านโอเปอเรเตอร์อย่างเอทีแอนด์ทีเท่านั้นด้วยราคา 299.99 เหรียญสหรัฐพร้อมสัญญาใช้บริการ 2 ปี (ราว 9,000 บาท) ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคมนี้
       
       สตีเฟน อีลอป (Stephen Elop) ซีอีโอโนเกีย ขึ้นเวทีเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่นิวยอร์กซิตีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐฯ โดยให้ข้อมูลว่าสมาร์ทโฟน Lumia 1020 จะสามารถเก็บภาพถ่ายความละเอียด 41 ล้านพิกเซลในสัดส่วน 3:2 หรือ 16:9 และจะสามารถสร้างไฟล์ขนาด 5 ล้านพิกเซลเพื่อการแชร์ที่รวดเร็วได้โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องตั้งค่าให้ยุ่งยาก
       
       ข้อมูลระบุว่า Lumia 1020 จะมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวเหมือนที่มีใน Lumia 920 ตัวเครื่องมาพร้อมไฟแฟลชซีนอน (Xenon flash) ซึ่งดีกว่าแฟลชแอลอีดีธรรมดา ทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้ใช้ Lumia 1020 สามารถถ่ายภาพได้คมชัดและสีสวยแม้ในเวลากลางคืน
       
       จุดสำคัญของ Lumia 1020 คือการไม่มีปุ่มออปติคอลซูมหรือการขยายเพื่อถ่ายภาพระยะใกล้จากระยะไกล ซึ่งเป็นไปตามสโลแกนปฏิวัติโลกแห่งการซูม “Zoom Reinvented” เนื่องจากเซ็นเซอร์กล้องความละเอียด 41 ล้านพิกเซลจะทำให้ผู้ใช้สามารถเก็บภาพมุมกว้างได้อย่างละเอียด และสามารถนำภาพมาตัดเจาะเฉพาะส่วนได้ทีหลังอย่างเสรี ซึ่งทุกมุมภาพสามารถตัดเพื่อขยายภาพระยะใกล้ชนิดเลือกได้ตามสบาย
       
       Lumia 1020 สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูง full HD จุดนี้โนเกียระบุว่าบริษัทให้ความสำคัญต่อการพัฒนาระบบบันทึกเสียงในวิดีโอเป็นพิเศษ ทำให้ Lumia 1020 สามารถปรับสมดุลเสียงที่ดังเกินไปให้พอดีกับวิดีโอได้อัตโนมัติ
       
       ข้อมูลระบุว่า Lumia 1020 จะมีแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมาจากโรงงานหรือ pre-installed app ชื่อว่า Nokia Pro Camera หน้าที่หลักของแอปพลิเคชันนี้คือการแนะนะช่วยเหลือให้ผู้ใช้สามารถใช้ฟีเจอร์ขั้นเทพด้านกล้องของ Lumia 1020 ได้สะดวกขึ้น ผู้ใช้จะสามารถปรับแต่งการตั้งค่า เช่น ความเร็วชัตเตอร์ หรือค่า ISO ซึ่งการตั้งค่าทั้งหมดจะทำผ่านปุ่มเสมือนที่แสดงบนหน้าจอดิจิตอล ถือเป็นรูปแบบเดียวกับที่ซัมซุง (Samsung) ใช้ในกล้องแอนดรอยด์ Galaxy cameras
       
       ทั้งหมดนี้ ซีอีโออีลอประบุว่าโนเกียจะเปิดตัวชุดพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อ Lumia 1020 ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคมเป็นต้นไป เพื่อให้นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติกล้อง 41 ล้านพิกเซลของ Lumia 1020 อย่างเต็มที่ ล่าสุดโนเกียระบุว่าได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับสื่อใหญ่และบริการออนไลน์อย่าง CNN, Yelp, Foursquare, Path และอีกมากมายเพื่อให้บริการที่ใช้ประโยชน์จากภาพถ่ายความละเอียดสูงได้ ตัวอย่างเช่นแอปพลิเคชันของ CNN อย่าง iReporter ที่จะทำให้ผู้ใช้ดึงภาพความละเอียด 41 ล้านพิกเซลมาประกอบในรายงานข่าว
       
       นอกจากคุณสมบัติด้านภาพ Lumia 1020 มาพร้อมระบบแผนที่ Nokia Here Maps เวอร์ชันอัปเกรดใหม่ที่สามารถรองรับคุณสมบัติแสดงภาพเสมือนจริงหรือ augmented reality (AR) ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถพบข้อมูลมากมายจากตำแหน่งสถานที่จริงเมื่อเปิดกล้องแล้วส่องไปยังทิศทางบริเวณที่ต้องการ จุดนี้รายงานระบุว่าหากส่องกล้องค้างไว้ที่บริเวณใดผู้ใช้สามารถซูมหรือขยายภาพเข้าไปยังจุดที่ต้องการทราบข้อมูลได้
       
       งานนี้โนเกียเปิดตัวอุปกรณ์เสริมจำนวนหนึ่งที่ออกแบบมาสำหรับ Lumia 1020 โดยเฉพาะ เช่นเคสชาร์จไร้สายที่ออกแบบเพื่อให้เครื่องสามารถคงความบางและพกพาสะดวก จุดนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า Lumia 1020 ไม่ถูกฝังระบบชาร์จไร้สายไว้ในเครื่องเหมือนพี่น้องตระกูล Lumia รุ่นอื่น รวมถึงอุปกรณ์จับยึดหรือ grip สำหรับให้ผู้ใช้ยึดสมาร์ทโฟนไว้เหมือนกล้องดิจิตอลโดยไม่ต้องถือเอง
       
       อีลอประบุชัดเจนว่า Lumia 1020 จะเริ่มจำหน่ายในสหรัฐฯ เป็นตลาดแรกก่อนจะขยายไปยังตลาดอื่นทั่วโลกช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีประเทศไทยรวมอยู่ในกลุ่มนี้เช่นกัน
       
       ก่อนหน้านี้โนเกียเคยเปิดตลาดโทรศัพท์มือถือที่มาพร้อมกล้องดิจิตอล 41 ล้านพิกเซลมาก่อนในชื่อ Nokia 808 PureView แต่โทรศัพท์มือถือรุ่นดังกล่าวเป็นหนึ่งในกลุ่มโทรศัพท์ระบบปฏิบัติการซิมเบียน (Symbian OS) รุ่นสุดท้ายที่โนเกียจงใจสร้างมาเพื่ออำลาตลาด โดยจุดต่างใน Lumia 1020 คือการเป็นสมาร์ทโฟนวินโดวส์โฟน ซึ่งมาพร้อมแอปพลิเคชันที่เหนือกว่าเดิม

iPhone Lite สวยใส บางเบา แต่ไม่โลว์!!

iPhone Lite หรูหรามีระดับ บนความพลาสติก!!”


iPhone Lite บาง ใส แต่ไม่โลว์!!.ท้ายที่สุด iPhone Low-Cost หรือ รุ่นประหยัดจากหลายสำนักก็ฟันธงกันแล้วว่า ราคาไม่ได้ถูกเวอร์ที่ 4,900 บาท อย่างที่เคยตื่นตระหนกกันอยู่พักใหญ่ เพราะไม่เช่นนั้นตลาดไลน์ซัมซุงฮีโร่คงปวดกระหมับน่าดู และก็ไม่ใช่ว่า ไอโฟนรุ่นประหยัดนี้จะไม่มีจริง เพราะมาจริงแน่นอน

การันตีจากข่าวลือและภาพหลุดที่ระยะหลังไม่เคยทำให้แฟนๆ ผิดหวัง และกลายเป็นเรื่องน่าเชื่อถือ ตั้งแต่คราวไอโฟน 5 เปิดตัวเป็นต้นมา สิ่งที่คาดหวังจึงตกอยู่ที่ดีไซน์ของ iPhone Low-Cost ว่าจะออกมาในทิศทางใด
จากภาพหลุดมันได้คอนเฟิร์มตัวมันแล้วว่า มีรูปลักษณ์คล้าคลึงกับ iPod Touch ที่ไม่อาบสีมาเต็มบอดี้ หน้าหลังเหมือนกัน และ Martin Hajek อาสามาช่วยคลี่ปมกับรุ่นประหยัดนี้อีกครั้ง ด้วยคอนเซ็ปต์ iPhone Liteบอดี้พลาสติก บาง ใส ที่ทำออกมาเป็นพลาสติกที่แลดูคลาสสิ้นดี จริงๆ !!
iPhone Lite
iphonelite_1-640x480
iphonelite_5-640x480iphonelite_4-640x480iphonelite_3-640x480 iphonelite_7-640x480
ที่มา mthai